http://www.bangkokbiznews.com /home/detail/business/media/20120519/452480/ศึก-กล่องทีวีดาวเทียม-ดุ-อา ร์เอสส่ง-ซันบ็อกซ์-บูมลาลีกา.html
หลังสองค่ายคอนเทนท์ โปรวายเดอร์ รายใหญ่วงการเอ็นเตอร์เทนเมนท์ "แกรมมี่-อาร์เอส" เดินหน้าปั้นธุรกิจ "ทีวีดาวเทียม" รูปแบบ "ฟรี ทู แอร์"
รับยุคเปิดเสรีแพลตฟอร์มการรับชมทีวีของครัวเรือนไทย ที่ปรับเปลี่ยนไปสู่การรับชมผ่านสมาชิกเคเบิลทีวีและจานรับสัญญาณดาวเทียมในอัตรา 70% ทั่วประเทศในปัจจุบัน
ในช่วงกลางปีนี้ จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการรับชมช่องรายการไปสู่ระบบ "เพย์ ทีวี" อย่างชัดเจนในกลุ่มคอนเทนท์ลิขสิทธิ์กีฬา ที่ไม่สามารถรับชมได้ฟรีได้อีกต่อไป โดย "จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่" ประกาศตัวเข้าสู่แพลตฟอร์ม โอเปอเรเตอร์ ด้วยการจำหน่ายกล่องรับสัญญาณดาวเทียม Gmm Z ซึ่งจะใช้เป็นเครื่องมือหลัก ก้าวสู่ธุรกิจเพย์ ทีวีในปีนี้
ข้างฝ่าย "อาร์เอส" ที่คว้าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอล “ลาลีกา สเปน” 3 ฤดูกาล ปี 2012-2015 เริ่มถ่ายทอดสดฤดูกาลแรก ส.ค.นี้
สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อาร์เอส ได้ประกาศแผนการทำตลาดเพย์ ทีวี ในการบริหารลิขสิทธิ์ลาลีกาช่วง 3 ฤดูกาลนี้ ผ่านรูปแบบการรับชม ช่องทีวีดาวเทียมช่องใหม่ "อาร์เอส สปอร์ต ลาลีกา" สำหรับการรับชมถ่ายทอดสดครบ 380 แมทช์ ตลอดฤดูกาล ด้วยแพ็คเกจค่าบริการรับชมเดือนละ 100 บาท โดยสามารถรับชมได้ผ่านกล่องรับสัญญาณดาวเทียมที่มีอยู่ในตลาด ทั้งระบบ ซีแบนด์ และเคยูแบนด์ มีการเข้ารหัส หรือ Conditional Access : CA ปัจจุบันมีอยู่ในตลาดประมาณ 3.5 ล้านกล่อง คือ กล่องดีทีวี 1 ล้านกล่อง และ พีเอสไอ 2.5 ล้านกล่อง
รายงานความเคลื่อนไหวล่าสุดของอาร์เอส ที่จะเปิดตัวในเร็วๆ นี้ คือ การทำตลาด "กล่องรับสัญญาณดาวเทียม" Sun Box สำหรับการรับชมการแข่งขัน ลาลีกา สเปน 2012-2015 และ ฟุตบอลโลก 2014 ได้ฟรี!! โดยไม่มีค่าใช้จ่ายรายเดือน
โดยกล่องซันบ็อกซ์ สามารถใช้ได้กับจานซีแบนด์ และ เคยู แบนด์ คาดว่าราคาจำหน่ายจะอยู่ที่ 1,590 บาทเท่ากับกล่องรุ่นอื่นๆ ในตลาด โดยชูจุดเด่นคอนเทนท์ชมฟรี ลาลีกา และฟุตบอลโลก มาใช้กระตุ้นยอดขายแข่งกับกล่องรุ่นอื่นๆ โดยอาร์เอส ได้จับมือเป็นพันธมิตรกลุ่ม BiG4 ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายจานรับสัญญาณดาวเทียม ประกอบไปด้วย อินโฟแซท ไอเดียแซท ลีโอแทค และไทยแซท เพื่อเป็นตัวแทนจำหน่ายกล่องซันบ็อกซ์ ทั่วประเทศ
ขณะที่ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ กำลังโหมปั้นยอดขาย "จีเอ็มเอ็ม แซท" ในจังหวะที่การแข่งขันฟุตบอลยูโร 2012 ลิขสิทธิ์ที่อยู่ในมือกำลังจะเริ่มขึ้นในเดือน มิ.ย.-ก.ค.นี้
ธนา เธียรอัจฉริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีเอ็มเอ็ม แซท จำกัด กล่าวว่าในช่วงปลายเดือน พ.ค.นี้ บริษัทเตรียมออกแคมเปญร่วมกับผู้ผลิตและจัดจำหน่ายโทรทัศน์ อย่าง "ซัมซุง" และผู้ให้บริการโทรศัพท์ "เอไอเอส" เพื่อกระตุ้นยอดขายกล่องจีเอ็มเอ็ม แซท ซึ่งเป็นกล่องรับสัญญาณเดียวที่รับชมการแข่งขันยูโร 2012 ได้ฟรี!! คาดว่ากล่องจีเอ็มเอ็ม แซท จะได้รับกระแสตอบรับที่ดีในช่วงที่มีการแข่งขัน
ยอดขายกล่องจีเอ็มเอ็ม แซท ในเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา อยู่ที่ 1.7 แสนกล่อง โดยตั้งแต่ปลายเดือน พ.ค.เป็นต้นไป จะมีสปอนเซอร์ที่สนับสนุนการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2012 หลายราย เช่น ฮอนด้า เครื่องดื่มโค้ก เตรียมสั่งซื้อกล่องจีเอ็มเอ็ม แซท แบบบิ๊กล็อต ในราคาพิเศษ รายละ 1-3 แสนกล่อง เพื่อนำไปจัดแคมเปญส่งเสริมการขายให้กับผู้บริโภค
พร้อมกันนี้ยังมีแผนขยายช่องทางการจำหน่ายผ่านโมเดิร์นเทรด ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ระบบขายตรง จึงเชื่อว่าจะสามารถทำยอดขายทั้งปีนี้ ได้ตามเป้าหมาย 2 ล้านกล่อง
“ยอมรับว่าเป้าหมาย 2 ล้านกล่อง เป็นเรื่องที่ยากมาก แต่เป้าหมายมีไว้พุ่งชน เรายังมีบันไดอีกหลายขั้นในการทำเป้าให้ถึง 2 ล้านกล่อง ทั้งฟุตบอลยูโร ที่สามารถช่องได้ฟรี และระบบเอชดี เฉพาะกลุ่มนี้น่าจะมีผู้บริโภคหลายแสนคน และในเดือน ก.ค.นี้ จะเปิดตัวกล่องรุ่นมินิ ราคาถูกต่ำกว่า 1,000 บาท คาดว่าจะสร้างยอดขายได้จำนวนมาก”
หลังจากจบการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2012 ในเดือน ก.ค.นี้ จะเริ่มรุกเข้าสู่ธุรกิจ "เพย์ ทีวี" ระบบเติมเงิน ผ่านกล่องจีเอ็มเอ็ม แซท เพื่อให้ทางเลือกแก่ผู้ชม ที่ต้องการดูคอนเทนท์กีฬาและบันเทิง ราคาไม่แพง กับแพ็คเกจ 6 ช่องกีฬา เดือนละ 300 บาท และ 4 ช่อง บันเทิง เดือนละ 200 บาท
ภายใต้ยุทธศาสตร์การรุกเข้าสู่ธุรกิจ "เพย์ทีวี" ของทั้งสองค่ายใหญ่ "แกรมมี่-อาร์เอส" ต่างมุ่งใช้กลยุทธ์ลิขสิทธิ์คอนเทนท์กีฬาฟุตบอล ที่อยู่ในความสนใจของผู้ชม มาใช้ขยายฐานสมาชิก พร้อมกับสร้างแพลตฟอร์ม "กล่องรับสัญญาณดาวเทียม" เป็นของตัวเอง เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการรับชมและจ่ายเงินผ่านระบบสมาชิก ที่จะเป็นแหล่งรายได้สำคัญของธุรกิจเพย์ทีวี
วันอังคารที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2555
วันเสาร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2555
"ทรู วิชั่นส์" เตรียมงบฯ 4 พันล้านลุยประมูลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ลั่นไม่หวั่นคู่แข่ง แกรมมี่-สยามกีฬา จับตา ช่อง 7 โดดร่วมวง เผยมั่นใจคว้าสิทธิ์ต่อ ล่าสุดเขย่าตลาดเพย์ทีวี โปรโมชั่นแรง ตามติดปีศาจแดงลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกอังกฤษทุกนัด ควบไทยพรีเมียร์ลีก แค่เดือนละ 300 บาท
ถึงขณะนี้ดูเหมือนว่าการประมูลซื้อสิทธิ์ การถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะมาถึงจะทวีความ คึกคักมากขึ้น ซึ่งไม่เพียงเฉพาะเจ้าของลิขสิทธิ์เดิม "ทรูวิชั่นส์" แต่ยังมียักษ์บันเทิงอย่าง จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ หรือล่าสุด สยามสปอร์ต ซินดิเคท เจ้าของหนังสือพิมพ์สยามกีฬา ที่จะจับมือกับกลุ่มบริษัทสามารถ คอร์ปอเรชั่น รวมทั้งมีกระแสข่าวว่า อาร์เอส ก็เป็นอีกค่ายหนึ่งได้เตรียมงบฯก้อนโตสำหรับการเข้าร่วมประมูลครั้งใหม่ที่ จะเริ่มในช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายนนี้ นายองอาจ ประภากมล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทรูวิชั่นส์ จำกัด ผู้ให้บริการโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิกรายใหญ่เปิดเผยว่า สำหรับทรูวิชั่นส์ขณะนี้ได้เตรียมงบประมาณในการประมูลพรีเมียร์ลีกไว้ประมาณ 3,000-4,000 ล้านบาท และมั่นใจว่าจะได้ลิขสิทธิ์นี้มาครอง เพราะว่าธุรกิจของทรูวิชั่นส์มีสมาชิกและจำนวนผู้ชม หรืออายบอลเป็นจำนวนมาก โดยที่ผ่านมามีฐานสมาชิกที่แข็งแกร่งราว 2 ล้านราย ซึ่งตรงนี้ถือว่ามีความสำคัญกับเจ้าของลิขสิทธิ์ค่อนข้างมาก และในจำนวนนี้เป็นกลุ่มพรีเมี่ยม 25% (แพ็กเกจโกลด์ แพลทินั่ม) และเป็นกลุ่มที่ทำรายได้ให้บริษัทเป็นสัดส่วนถึง 75% "การแข่งขันใน ด้านคอนเทนต์ถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะมีการแย่งชิงกันอย่างหนัก เพราะเป็นกลไกสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจนี้เติบโตไปได้ และการเข้ามาของผู้เล่นรายใหญ่อย่าง แกรมมี่ อาร์เอส ฯลฯ จะทำให้ตลาดตื่นตัวและเกิดเป็นกระแส น่าจะทำให้ภาพรวมของตลาดเติบโตขึ้นไม่น้อยกว่า 30% ในส่วนของธุรกิจเพย์ทีวี" ขณะที่แหล่งข่าวในวงการเคเบิลทีวีรายหนึ่ง เปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้สนใจจะเข้าร่วมประมูลซื้อลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีกอังกฤษในรอบแรก ในเดือนพฤษภาคมนี้ประมาณ 4-5 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ประกอบการไทย 3 ราย ต่างประเทศ 2 ราย ขณะที่ทราบแน่ชัดแล้ว 2 ราย คือทรูวิชั่นส์ เจ้าของลิขสิทธิ์เดิมและแกรมมี่ซึ่งถือเป็นค่ายใหญ่ ที่มีศักยภาพสูงและมีความพร้อมทางด้านการเงิน ส่วนรายอื่น ๆ ที่สนใจเท่าที่ทราบก็มี อาร์เอส, กลุ่มสยามสปอร์ต รวมทั้งเวิร์คพอยท์ แต่ก็ต้องยอมรับว่าบริษัทเหล่านี้เป็นบริษัทขนาดเล็ก ผลประกอบการต่อปีอยู่ที่หลัก 2,000-3,000 ล้านบาทเท่านั้น ทำให้การทุ่มงบฯในการประมูลอาจเป็นไปได้ยาก อย่างไรก็ตามยังมีผู้ ประกอบการอีกรายที่ดูน่ากลัวและอาจจะลงมาประมูลแข่งด้วย คือช่อง 7 เนื่องจากมีความพร้อมในเรื่องเม็ดเงินที่จะประมูล เพราะล่าสุดช่อง 7 เพิ่งประมูลได้ลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลเอฟเอคัพของอังกฤษ โดยชนะทรูวิชั่นส์ และซีทีเอช (บริษัท เคเบิล ไทย โฮลดิ้ง จำกัด) "การ แข่งขันดังกล่าว คาดว่าจะส่งผลให้ราคาประมูลพรีเมียร์ลีกสูงขึ้นเป็นเท่าตัวเมื่อเทียบกับ ครั้งที่แล้ว และอาจจะเป็นตัวเลขที่สูงถึง 4,000 ล้านบาท" ด้านนายวิ ลักษณ์ โหลทอง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) เจ้าของหนังสือกีฬา "สยามกีฬา" กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า บริษัทมีความพร้อมและสนใจจะประมูลซื้อลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีกอังกฤษในครั้ง นี้เช่นกัน แต่ทั้งนี้คงต้องหารือกับบริษัทสามารถ คอร์ปอเรชั่น พันธมิตรด้วย ก่อนหน้านี้ นายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ประกาศจะใช้งบฯ 2,000-3,000 ล้านบาท ในการประมูลซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษสำหรับ 3 ฤดูกาลข้างหน้า โดยการประมูลดังกล่าวจะเป็นการร่วมมือกับพันธมิตร |
สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)