วันเสาร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2555

รับติดตั้งจานดาวเทียมในราคาพิเศษ http://satellitenew.blogspot.com


จานเหลือง DTV ดูฟรี 50 ช่อง จุดที่1 ราคา 2,900 บาท จุดที่2 ราคา 2,400 บาท (ดูอิสระ) 

** จานดํา C BAND ดูฟรี 150 ช่อง ** ไม่มีรายเดือน เพิ่มช่องอัตโนมัติ ช่องไม่มีหาย

จาน PSI SX 5 ฟุต จุดที่ 1 ราคา 3,200 บาท จุดที่ 2 ราคา 1,500 บาท 

จาน PSI โอทู 5 ฟุต จุดที่ 1 ราคา 3,500 บาท จุดที่ 2 ราคา 1,800 บาท

จาน IDEA SAT 5 ฟุต จุดที่ 1 ราคา 3,200 บาท จุดที่ 2 ราคา 1,500 บาท 

จาน DYNASAT 5 ฟุต จุดที่ 1 ราคา 3,200 บาท จุดที่ 2 ราคา 1,500 บาท 

DYNASAT MOVE 6ฟุต ราคา 14,900 บาท 

PSI MOVE 6ฟุต ราคา 12,900 บาท 

จาน PSI OK ราคา 2,700 บาท ดูฟรีกว่า 60 ช่อง

เครื่อง 1-SKY หน้าจานดำ 4,500 บาท หน้าจานแดง 3,900 บาท ถ้าลูกค้ามีจานอยู่แล้วจานอะไรก็ได้ราคา 1,900 บาท

จานส้มIPM ดูฟรี 80 ช่อง จุดที่1 ราคา 3,500 บาท จุดที่ 2 ราคา 3,000 บาท (ดูอิสระ) 

IPM จานดำ DUO ดูฟรี 120 ช่อง จุดที่1 ราคา 6,000 บาท จุดที่2 ราคา 4,000 บาท ดูได้ทั้งรายการ C BAND/KU BAND 

** จานแดง ** 

จานแดง TRUE VISION ราคา 4,500 บาท รายเดือน 

ลูกค้ามีจานแดงแต่ไม่มีเครื่องสามารถติดเครื่อง DTV ดูได้ 50 ช่อง ราคา 2,500 บาท 

ลูกค้ามีจานแดงแต่ไม่มีเครื่องสามารถติดเครื่อง IPM ดูได้ 80 ช่อง ราคา 3,000 บาท 

รายการที่ดูได้มี ภาพยนต์ การ์ตูน สาระคดี วาไรตี้ เพลง กีฬา ข่าว ท้องถิ่น ทั้งไทยและต่างประเทศ 

งานระบบโครงการ 
ติดตั้งจานดาวเทียม ชุดอุปกรณ์งานระบบทีวีในตึกแบบสำเร็จเหมาะสำหรับโครงการ คอนโด อพาร์ทเม้นท์ โรงแรม รีสอร์ท โรงพยาบาล สถานศึกษา 
เช่น ชุดอุปกรณ์งานระบบแบบสำเร็จ 6,10,14,16 ช่องรายการ 
6 ช่องรายการ 19,000 บาท 3,5,7,9,itv 
10 ช่องรายการ 30,000 บาท ทีวีไทย+ทีวีดาวเทียม 
14 ช่องรายการ 36,000 บาท ทีวีไทย+ทีวีดาวเทียม 
20 ช่องรายการ 45,000 บาท ทีวีไทย+ทีวีดาวเทียม 
ผู้นำด้านงานระบบช่องคุณภาพ ไม่มีรายเดือน ใช้จาน IDEA SAT,PSI มีรายการช่อง การ์ตูน ภาพยนตร์ ซีรียส์ ข่าว บันเทิง สารคดี วาไรตี้ กีฬา การศึกษา ท้องถิ่น วิทยุFM 

ปรับจานเริ่มที่ 500 บาท 

เสาทีวี 1 จุด 1,500 บาท ดู 6 ช่องไทย 
ติดต่อ ช่างโด่ง 0871254439 หรือ 025526394
http://satellitenew.blogspot.com/

วันพุธที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2555

'ทรูวิชั่นส์' เคลียร์ลิขสิทธิ์ ฟุตบอล 'ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก' ฤดูกาลใหม่ 2012/13 
ยิงสดผ่าน ‘ช่อง 5’ เอาใจคนไทยทั่วประเทศ เริ่มกันยายนนี้เป็นต้นไป

 

กรุงเทพฯ : 1 สิงหาคม 2555 - ทรูวิชั่นส์ เคลียร์ลิขสิทธิ์กับยูฟ่า จับมือ ช่อง 5 ถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอล “ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก” ฤดูกาลใหม่ 2012/13 ให้แฟนบอลชาวไทยได้ร่วมลุ้นศึกชิงแชมป์ฟุตบอลสโมสรยุโรป โดยมีทีมฟุตบอลชั้นนำระดับโลกร่วมดวลแข้ง อาทิ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล, “ไก่เดือยทอง” สเปอร์ส, “สาลิกาดง” นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด, “อัซซูร่า” นาโปลี, “โอแอ็ม” โอลิมปิก มาร์กเซย และ   “ตราหมี” แอตเลติโก มาดริด แชมป์ฤดูกาลที่แล้ว ชมถ่ายทอดสดทาง ช่อง 5 จำนวน 6 คู่ และเทปการแข่งขันอีก 6 คู่ รวมเป็น 12 คู่ ภายในสิ้นปี 2555 นี้ รับชมได้ทุกอุปกรณ์รับสัญญาณไม่มีจอดำ เริ่มกันยายนนี้

พลโท วิเชียร มัญญะหงษ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่ สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก สายงานปฎิบัติการ กล่าวว่า “สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก มีความยินดีที่ได้ร่วมกับ ทรูวิชั่นส์ ถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอล ยูฟ่า  ยูโรป้า ลีก ซึ่งเป็นฟุตบอลลีกสำคัญที่คอลูกหนังชาวไทย และทั่วโลกให้ความสนใจอย่างล้นหลาม ที่รวบรวมเหล่าสโมสรระดับแนวหน้าของยูโรปมาร่วมชิงชัยกัน โดยความร่วมมือในครั้งนี้ช่อง 5 จะถ่ายทอดสดการแข่งขันในแมตช์สำคัญจำนวน 6 คู่ และนำเทปมาออกอากาศอีก 6 คู่ รวมเป็น 12 คู่ ภายในสิ้นปี 2555 นี้ สำหรับปี2556 จะแจ้งให้ทราบภายหลัง นอกจากนี้ยังมีการเผยแพร่รายการฟุตบอลยูโรฟ่า ยูโรป้าลีก ไฮไลท์อีก 6 ตอนทุกวันอาทิตย์ เวลา 01.00-01.30 ตั้งแต่เดือนกันยายนนี้เป็นต้นไป ในอนาคตช่อง 5 พร้อมเดินหน้าสรรหารายการที่ดี มีคุณภาพ สร้างสรรค์และน่าสนใจมานำเสนอให้กับคนไทยต่อไป สมดังคำขวัญของเราคือ ททบ.5 นำคุณค่าสู่สังคมไทย”

นายอาณัติ เมฆไพบูลย์วัฒนา กรรมการผู้จัดการ บมจ. ทรูวิชั่นส์ กล่าวว่า “การแข่งขันฟุตบอล ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก หรือชื่อเดิม “ยูฟ่า คัพ” เป็นการแข่งขันฟุตบอลระดับสโมสรที่ยิ่งใหญ่ของโลกอีกรายการหนึ่ง และมีสโมสรระดับแนวหน้าของยุโรปเข้าร่วมชิงชัยอย่างต่อเนื่องมานานกว่า 41 ปี ตั้งแต่ ค.ศ. 1971 โดยทรูวิชั่นส์ ได้รับลิขสิทธิ์อย่างเป็นทางการให้ดำเนินการถ่ายทอดสดการแข่งขันอย่างต่อเนื่องเป็นฤดูกาลที่ 3 สำหรับฤดูกาลที่ผ่านมาได้ทำการถ่ายทอดสดแบบเอ็กซ์คลูซีฟให้สมาชิกทรูวิชั่นส์รับชมโดยเฉพาะ ซึ่งได้รับกระแสตอบรับอย่างล้นหลามจากแฟนบอลชาวไทย ในฤดูกาลใหม่นี้ ทรูวิชั่นส์ จึงเปิดโอกาสให้คนไทยทั่วประเทศ สามารถรับชมการแข่งขันในบางคู่ได้ด้วยผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5

สำหรับการถ่ายทอดสดฟุตบอล ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ฤดูกาลใหม่นี้ ทรูวิชั่นส์ เจ้าของลิขสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย จะเริ่มทำการถ่ายทอดสดตั้งแต่รอบแรก คือ รอบแบ่งกลุ่ม ในเดือนกันยายนนี้ เป็นต้นไป โดยสมาชิกทรูวิชั่นส์สามารถรับชมเต็มอิ่ม 6-10 แมตช์/สัปดาห์ รวมสูงสุด 136 แมตช์ ตลอดฤดูกาล และในระบบเอชดี 34 แมตช์ ตามแพ็กเกจที่เป็นสมาชิก สำหรับแฟนบอลชาวไทยทั่วประเทศสามารถชมการถ่ายทอดสดจนถึงสิ้นปีนี้จำนวน 6 คู่ และเทปการแข่งขันอีก 6 คู่ รวมเป็น 12 คู่ ทางช่อง 5 ที่ออกอากาศผ่านทุกระบบทั้งเสาอากาศหนวดกุ้ง เสาก้างปลา เคเบิ้ลทีวี จานดาวเทียม และกล่องรับสัญญาณทุกประเภท ที่มีระบบป้องกันไม่ให้สัญญาณเล็ดลอดไปต่างประเทศอีกด้วย

การแข่งขันฟุตบอล ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก 2012/13 นี้ มีทีมสโมสรที่น่าจับตามองของยุโรปเข้าร่วมดวลแข้งมากมาย อาทิ แชมป์ฤดูกาลที่แล้ว “ตราหมี” แอตเลติโก มาดริด และรองแชมป์ แอธเลติก บิลเบา ร่วมด้วย “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล, “ไก่เดือยทอง” สเปอร์ส, “สาลิกาดง” นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด, “งูใหญ่” อินเตอร์ มิลาน, “อัซซูร่า” นาโปลี, “โอแอ็ม” โอลิมปิก มาร์กเซย, พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น, ลาซิโอ, บอร์กโดซ์, สปอร์ติ้ง ลิสบอน, ซีเอสเคเอ มอสโก และโอลิมปิก ลียง เป็นต้น

“ทรูวิชั่นส์ขอขอบคุณ ผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ รถจักยานยนต์ยามาฮ่า, เครื่องดื่มตราช้าง, ยูโร่คัสตาร์ดเค้ก และผู้ร่วมสนับสนุน ทรูมูฟเอช 3G+ ที่ร่วมสร้างความสมบูรณ์ และความสนุกสนานให้การถ่ายทอดสดยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ในฤดูกาลนี้”
สนใจสมัครสมาชิกทรูวิชั่นส์ และสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร  0-2725-7000 หรือติดต่อ ทรูช้อป หรือตัวแทนทรูวิชั่นส์ทั่วประเทศ สำหรับสมาชิกปัจจุบันสอบถามได้ที่ทรูวิชั่นส์แคร์  0-2725-2525
ที่มา http://www.truevisionstv.com/news_detail.aspx?news_id=228

วันพฤหัสบดีที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

พี เอส ไอ สู้สังเวียนทีวีดาวเทียม

ปัจจุบัน การแข่งขันของตลาดทีวีดาวเทียมทวีความรุนแรงมากขึ้น ไม่เพียงแต่ผู้เล่นรายใหม่ที่รุกเข้ามาชิงพื้นที่ ผู้เล่นรายเดิมรวมถึงผู้ผลิตจานดาวเทียมที่อยู่ในตลาดต่างก็ต้องปรับตัว เพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาดไว้เช่นกัน

"สมพร ธีระโรจนพงษ์" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีเอสไอ โฮลดิ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายจานรับสัญญาณดาวเทียม "พีเอสไอ" ในฐานะผู้ครองแชร์ 80% หรือมีจานอยู่ในตลาด 10 กว่าล้านครัวเรือน เปิดใจ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ช่วงระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา การแข่งขันของตลาดทีวีดาวเทียมเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง หากธุรกิจที่เข้ามาแข่งขันไม่มีความพร้อม การแข่งขันก็จะดุเดือดขึ้นมาทันที 

"พีเอสไอคือผู้เล่นที่อยู่ในตลาดทีวีดาวเทียมมาอย่างยาวนาน จึงมีความพร้อมและถือว่าตลาดนี้เป็นสนามของเรา แต่หากวันไหนเราข้ามไปเล่นในสนามอื่นที่เราไม่มีความถนัด ก็คงสู้เขาไม่ได้เช่นกัน ดังนั้นจึงพยายามแข่งขันอยู่ในตลาดที่ถนัดและคุ้นชิน พร้อมทั้งเดินหน้าสร้างความแปลกใหม่ พัฒนาเทคโนโลยี การบริการอยู่เสมอ"

ก้าว ต่อไปพีเอสไอจึงไม่ได้จำกัดตัวเองอยู่เพียงผู้ผลิตจานดาวเทียม นั่นก็หมายความว่ารายได้หลักในอนาคตจะไม่ได้มาจากการขายจานอีกต่อไป แต่จะมาจากการขยับไปสู่ธุรกิจการให้บริการ ได้แก่ การขยับไปเป็นเน็ตเวิร์กโพรไวเดอร์ หรือ OTA (Over The Air) คือ การส่งข้อมูล หรือข้อความต่าง ๆ ขึ้นไปยังดาวเทียม แล้วดึงลงมาสู่ครัวเรือนให้สามารถรับชมผ่านจานดาวเทียมได้ 

ตามด้วย การให้ความสะดวกกับลูกค้า โดยเริ่มทำเทิร์นคีย์โซลูชั่น หรือการที่ผู้ผลิตพัฒนาจนแล้วเสร็จในสภาพพร้อมใช้งาน หมายถึง ใครที่ต้องการเข้ามาผลิตรายการ เพียงเดินเข้ามา ทางบริษัทจะมีบริการในส่วนนี้รองรับไว้ให้ ทั้งการอัพลิงก์ ดาวน์ลิงก์ มีสตูดิโอพร้อมออกอากาศและห้องควบคุม ตัดต่อแบบครบวงจร 

ปัจจุบัน เริ่มมีลูกค้าหลายรายสนใจเข้ามาใช้บริการบ้างแล้ว รวมถึงมีแผนที่จะร่วมกับบริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านคอนเทนต์ อย่างเวิร์คพอยท์ฯ ในการพัฒนาระบบเทคโนโลยีต่าง ๆ รวมกัน

รายได้หลักอีกส่วนหนึ่งจะมา จากการแชร์ข้อมูลจากระบบวัดเรตติ้งทีวีดาวเทียมแบบเรียลไทม์หรือพีเอสไอ เรตติ้งบ็อกซ์ ซึ่งได้ร่วมกับเอไอเอส ติดตั้งซอฟต์แวร์ รวมถึงรายงานผลแบบเรียลไทม์ ปัจจุบัน 2,000 ตัวอย่างทั่วประเทศ เพื่อใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงแก่เจ้าของสินค้า เอเยนซี่วางแผนลงโฆษณา รวมถึงรายได้จากการโฆษณา โลโก้สินค้า พ็อปอัพจะส่วน

รายได้เสริมเข้า มาอีกช่องทางหนึ่งเป็นการวัดผลแบบเรียลไทม์ที่แบ่งแยกย่อยในหลากรูปแบบ ทั้งจำนวนผู้ชมช่องต่าง ๆ กลุ่มผู้ชมที่แบ่งเป็นกลุ่มเอ รายได้ 50,000 บาทขึ้นไป กลุ่มบี รายได้ 30,000 บาทขึ้นไป และกลุ่มซี รายได้ต่ำกว่า 20,000 บาท

สมพรยังกล่าวถึงเป้าหมายต่อไปว่า เตรียมออกกล่องรับสัญญาณรุ่นใหม่ ภายใต้ชื่อ โอทูป เพราะเชื่อว่าโอกาสที่ผู้บริโภคจะเปลี่ยนกล่องมีอยู่แน่นอน 

ปัจจุบัน มีฐานผู้บริโภคที่ติดกล่องรับสัญญาณจำนวนมาก ถ้าถึงวันหนึ่งก็จะนำกล่องใหม่นี้เข้าไปแทนกล่องเก่า ซึ่งกล่องรับสัญญาณโอทูป ได้นำเอารอม ROM ซึ่งเป็นหน่วยจัดเก็บข้อมูลมาใส่ไว้ เพื่อใช้สำหรับเก็บข้อมูลและภาพยนตร์ที่พีเอสไอจะเป็นผู้ส่งให้แก่ผู้ชม ได้รับชมฟรี ที่บ้าน แต่ทุกภาพยนตร์จะต้องมีโฆษณาสอดแทรกเป็นพ็อปอัพหรือโลโก้เข้าไปด้วย

"เราเชื่อว่าแนวโน้มของเพย์เปอร์วิวจะเปลี่ยนไป ด้วยพฤติกรรมของผู้บริโภค เพราะผู้ชมมีทางเลือกในการรับชมสื่อ

ต่าง ๆ ได้สะดวกและหลายช่องทางมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการรับชมคลิปผ่านอินเทอร์เน็ต ที่สามารถเลือกรับชมได้ตามความสนใจ 

ขณะ เดียวกันด้วยเวลาของผู้บริโภคที่มีอยู่อย่างจำกัด เป็นผลให้การรับชมทีวีลดลงด้วย เช่นเดียวกับแนวโน้มการรับชมภาพยนตร์ที่ลดลง เพราะช่องทางการรับชมเพิ่มขึ้น การเพิ่มช่องทางการเก็บเงินให้แก่เจ้าของหนัง จึงน่าจะได้รับความสนใจ" 

ใน ส่วนของแพลตฟอร์มดังกล่าว ช่วงเริ่มต้นนี้ พีเอสไอจะเข้าไปร่วมมือกับผู้ผลิตภาพยนตร์ หรือการซื้อลิขสิทธิ์ เพื่อนำภาพยนตร์เข้ามาฉายให้แก่ผู้บริโภค 

ขณะที่ระยะยาวจะใช้ระบบ เรตติ้งบ็อกซ์ของพีเอสไอเป็นตัววัดว่าภาพยนตร์เรื่องใดมีผู้ชมเท่าไร หลังจากนั้นก็เป็นการโฆษณาแล้วแบ่งรายได้กับเจ้าของภาพยนตร์ 

"เดิม ทีแพลตฟอร์มดังกล่าวจะเริ่มวางจำหน่ายในปีนี้ แต่ด้วยข้อจำกัดเรื่องราคากล่องที่ยังสูงถึง 4,000-5,000 บาท และบริษัทได้เช่าแบนด์วิดท์ไทยคม 6 แต่ยังไม่เปิดให้บริการ ทำให้ต้องเลื่อนออกไป คาดว่าปีหน้าจะวางตลาดได้" 

ส่วนปีนี้แม้ว่า การแข่งขันจะสูง แต่ "สมพร" กล่าวว่า ครึ่งปีแรกบริษัทก็เติบโตถึง 60% สิ้นปีนี้น่าจะปิดรายได้ที่ 3,000 ล้านบาท ขณะที่ปี 2555 นับว่าเป็นปีแห่งการลงทุน เพราะลงทุนสร้างโรงงานใหม่ เพื่อผลิตสายโคแอกเชียล (Coaxial) ปรับปรุงศูนย์บริการและขยายเพิ่มอีก 3 สาขา รวมเป็น 35 สาขาสิ้นปีนี้ ภายใต้งบประมาณกว่า 300 ล้านบาท

วันอังคารที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

อาร์เอสลงสู้ในศึกจานดาวเทียม

http://www.bangkokbiznews.com /home/detail/business/media/20120519/452480/ศึก-กล่องทีวีดาวเทียม-ดุ-อา ร์เอสส่ง-ซันบ็อกซ์-บูมลาลีกา.html

หลังสองค่ายคอนเทนท์ โปรวายเดอร์ รายใหญ่วงการเอ็นเตอร์เทนเมนท์ "แกรมมี่-อาร์เอส" เดินหน้าปั้นธุรกิจ "ทีวีดาวเทียม" รูปแบบ "ฟรี ทู แอร์"

รับยุคเปิดเสรีแพลตฟอร์มการรับชมทีวีของครัวเรือนไทย ที่ปรับเปลี่ยนไปสู่การรับชมผ่านสมาชิกเคเบิลทีวีและจานรับสัญญาณดาวเทียมในอัตรา 70% ทั่วประเทศในปัจจุบัน

ในช่วงกลางปีนี้ จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการรับชมช่องรายการไปสู่ระบบ "เพย์ ทีวี" อย่างชัดเจนในกลุ่มคอนเทนท์ลิขสิทธิ์กีฬา ที่ไม่สามารถรับชมได้ฟรีได้อีกต่อไป โดย "จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่" ประกาศตัวเข้าสู่แพลตฟอร์ม โอเปอเรเตอร์ ด้วยการจำหน่ายกล่องรับสัญญาณดาวเทียม Gmm Z ซึ่งจะใช้เป็นเครื่องมือหลัก ก้าวสู่ธุรกิจเพย์ ทีวีในปีนี้

ข้างฝ่าย "อาร์เอส" ที่คว้าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอล “ลาลีกา สเปน” 3 ฤดูกาล ปี 2012-2015 เริ่มถ่ายทอดสดฤดูกาลแรก ส.ค.นี้

สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อาร์เอส ได้ประกาศแผนการทำตลาดเพย์ ทีวี ในการบริหารลิขสิทธิ์ลาลีกาช่วง 3 ฤดูกาลนี้ ผ่านรูปแบบการรับชม ช่องทีวีดาวเทียมช่องใหม่ "อาร์เอส สปอร์ต ลาลีกา" สำหรับการรับชมถ่ายทอดสดครบ 380 แมทช์ ตลอดฤดูกาล ด้วยแพ็คเกจค่าบริการรับชมเดือนละ 100 บาท โดยสามารถรับชมได้ผ่านกล่องรับสัญญาณดาวเทียมที่มีอยู่ในตลาด ทั้งระบบ ซีแบนด์ และเคยูแบนด์ มีการเข้ารหัส หรือ Conditional Access : CA ปัจจุบันมีอยู่ในตลาดประมาณ 3.5 ล้านกล่อง คือ กล่องดีทีวี 1 ล้านกล่อง และ พีเอสไอ 2.5 ล้านกล่อง

รายงานความเคลื่อนไหวล่าสุดของอาร์เอส ที่จะเปิดตัวในเร็วๆ นี้ คือ การทำตลาด "กล่องรับสัญญาณดาวเทียม" Sun Box สำหรับการรับชมการแข่งขัน ลาลีกา สเปน 2012-2015 และ ฟุตบอลโลก 2014 ได้ฟรี!! โดยไม่มีค่าใช้จ่ายรายเดือน

โดยกล่องซันบ็อกซ์ สามารถใช้ได้กับจานซีแบนด์ และ เคยู แบนด์ คาดว่าราคาจำหน่ายจะอยู่ที่ 1,590 บาทเท่ากับกล่องรุ่นอื่นๆ ในตลาด โดยชูจุดเด่นคอนเทนท์ชมฟรี ลาลีกา และฟุตบอลโลก มาใช้กระตุ้นยอดขายแข่งกับกล่องรุ่นอื่นๆ โดยอาร์เอส ได้จับมือเป็นพันธมิตรกลุ่ม BiG4 ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายจานรับสัญญาณดาวเทียม ประกอบไปด้วย อินโฟแซท ไอเดียแซท ลีโอแทค และไทยแซท เพื่อเป็นตัวแทนจำหน่ายกล่องซันบ็อกซ์ ทั่วประเทศ

ขณะที่ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ กำลังโหมปั้นยอดขาย "จีเอ็มเอ็ม แซท" ในจังหวะที่การแข่งขันฟุตบอลยูโร 2012 ลิขสิทธิ์ที่อยู่ในมือกำลังจะเริ่มขึ้นในเดือน มิ.ย.-ก.ค.นี้

ธนา เธียรอัจฉริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีเอ็มเอ็ม แซท จำกัด กล่าวว่าในช่วงปลายเดือน พ.ค.นี้ บริษัทเตรียมออกแคมเปญร่วมกับผู้ผลิตและจัดจำหน่ายโทรทัศน์ อย่าง "ซัมซุง" และผู้ให้บริการโทรศัพท์ "เอไอเอส" เพื่อกระตุ้นยอดขายกล่องจีเอ็มเอ็ม แซท ซึ่งเป็นกล่องรับสัญญาณเดียวที่รับชมการแข่งขันยูโร 2012 ได้ฟรี!! คาดว่ากล่องจีเอ็มเอ็ม แซท จะได้รับกระแสตอบรับที่ดีในช่วงที่มีการแข่งขัน

ยอดขายกล่องจีเอ็มเอ็ม แซท ในเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา อยู่ที่ 1.7 แสนกล่อง โดยตั้งแต่ปลายเดือน พ.ค.เป็นต้นไป จะมีสปอนเซอร์ที่สนับสนุนการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2012 หลายราย เช่น ฮอนด้า เครื่องดื่มโค้ก เตรียมสั่งซื้อกล่องจีเอ็มเอ็ม แซท แบบบิ๊กล็อต ในราคาพิเศษ รายละ 1-3 แสนกล่อง เพื่อนำไปจัดแคมเปญส่งเสริมการขายให้กับผู้บริโภค

พร้อมกันนี้ยังมีแผนขยายช่องทางการจำหน่ายผ่านโมเดิร์นเทรด ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ระบบขายตรง จึงเชื่อว่าจะสามารถทำยอดขายทั้งปีนี้ ได้ตามเป้าหมาย 2 ล้านกล่อง

“ยอมรับว่าเป้าหมาย 2 ล้านกล่อง เป็นเรื่องที่ยากมาก แต่เป้าหมายมีไว้พุ่งชน เรายังมีบันไดอีกหลายขั้นในการทำเป้าให้ถึง 2 ล้านกล่อง ทั้งฟุตบอลยูโร ที่สามารถช่องได้ฟรี และระบบเอชดี เฉพาะกลุ่มนี้น่าจะมีผู้บริโภคหลายแสนคน และในเดือน ก.ค.นี้ จะเปิดตัวกล่องรุ่นมินิ ราคาถูกต่ำกว่า 1,000 บาท คาดว่าจะสร้างยอดขายได้จำนวนมาก”

หลังจากจบการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2012 ในเดือน ก.ค.นี้ จะเริ่มรุกเข้าสู่ธุรกิจ "เพย์ ทีวี" ระบบเติมเงิน ผ่านกล่องจีเอ็มเอ็ม แซท เพื่อให้ทางเลือกแก่ผู้ชม ที่ต้องการดูคอนเทนท์กีฬาและบันเทิง ราคาไม่แพง กับแพ็คเกจ 6 ช่องกีฬา เดือนละ 300 บาท และ 4 ช่อง บันเทิง เดือนละ 200 บาท

ภายใต้ยุทธศาสตร์การรุกเข้าสู่ธุรกิจ "เพย์ทีวี" ของทั้งสองค่ายใหญ่ "แกรมมี่-อาร์เอส" ต่างมุ่งใช้กลยุทธ์ลิขสิทธิ์คอนเทนท์กีฬาฟุตบอล ที่อยู่ในความสนใจของผู้ชม มาใช้ขยายฐานสมาชิก พร้อมกับสร้างแพลตฟอร์ม "กล่องรับสัญญาณดาวเทียม" เป็นของตัวเอง เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการรับชมและจ่ายเงินผ่านระบบสมาชิก ที่จะเป็นแหล่งรายได้สำคัญของธุรกิจเพย์ทีวี

วันเสาร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2555


"ทรู วิชั่นส์" เตรียมงบฯ 4 พันล้านลุยประมูลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ลั่นไม่หวั่นคู่แข่ง แกรมมี่-สยามกีฬา จับตา ช่อง 7 โดดร่วมวง เผยมั่นใจคว้าสิทธิ์ต่อ ล่าสุดเขย่าตลาดเพย์ทีวี โปรโมชั่นแรง ตามติดปีศาจแดงลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกอังกฤษทุกนัด ควบไทยพรีเมียร์ลีก แค่เดือนละ 300 บาท

ถึงขณะนี้ดูเหมือนว่าการประมูลซื้อสิทธิ์ การถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะมาถึงจะทวีความ คึกคักมากขึ้น ซึ่งไม่เพียงเฉพาะเจ้าของลิขสิทธิ์เดิม "ทรูวิชั่นส์" แต่ยังมียักษ์บันเทิงอย่าง จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ หรือล่าสุด สยามสปอร์ต ซินดิเคท เจ้าของหนังสือพิมพ์สยามกีฬา ที่จะจับมือกับกลุ่มบริษัทสามารถ คอร์ปอเรชั่น รวมทั้งมีกระแสข่าวว่า อาร์เอส ก็เป็นอีกค่ายหนึ่งได้เตรียมงบฯก้อนโตสำหรับการเข้าร่วมประมูลครั้งใหม่ที่ จะเริ่มในช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายนนี้

นายองอาจ ประภากมล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทรูวิชั่นส์ จำกัด ผู้ให้บริการโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิกรายใหญ่เปิดเผยว่า สำหรับทรูวิชั่นส์ขณะนี้ได้เตรียมงบประมาณในการประมูลพรีเมียร์ลีกไว้ประมาณ 3,000-4,000 ล้านบาท และมั่นใจว่าจะได้ลิขสิทธิ์นี้มาครอง เพราะว่าธุรกิจของทรูวิชั่นส์มีสมาชิกและจำนวนผู้ชม หรืออายบอลเป็นจำนวนมาก

โดยที่ผ่านมามีฐานสมาชิกที่แข็งแกร่งราว 2 ล้านราย ซึ่งตรงนี้ถือว่ามีความสำคัญกับเจ้าของลิขสิทธิ์ค่อนข้างมาก และในจำนวนนี้เป็นกลุ่มพรีเมี่ยม 25% (แพ็กเกจโกลด์ แพลทินั่ม) และเป็นกลุ่มที่ทำรายได้ให้บริษัทเป็นสัดส่วนถึง 75%

"การแข่งขันใน ด้านคอนเทนต์ถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะมีการแย่งชิงกันอย่างหนัก เพราะเป็นกลไกสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจนี้เติบโตไปได้ และการเข้ามาของผู้เล่นรายใหญ่อย่าง แกรมมี่ อาร์เอส ฯลฯ จะทำให้ตลาดตื่นตัวและเกิดเป็นกระแส น่าจะทำให้ภาพรวมของตลาดเติบโตขึ้นไม่น้อยกว่า 30% ในส่วนของธุรกิจเพย์ทีวี"

ขณะที่แหล่งข่าวในวงการเคเบิลทีวีรายหนึ่ง เปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้สนใจจะเข้าร่วมประมูลซื้อลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีกอังกฤษในรอบแรก ในเดือนพฤษภาคมนี้ประมาณ 4-5 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ประกอบการไทย 3 ราย ต่างประเทศ 2 ราย

ขณะที่ทราบแน่ชัดแล้ว 2 ราย คือทรูวิชั่นส์ เจ้าของลิขสิทธิ์เดิมและแกรมมี่ซึ่งถือเป็นค่ายใหญ่ ที่มีศักยภาพสูงและมีความพร้อมทางด้านการเงิน ส่วนรายอื่น ๆ ที่สนใจเท่าที่ทราบก็มี อาร์เอส, กลุ่มสยามสปอร์ต รวมทั้งเวิร์คพอยท์ แต่ก็ต้องยอมรับว่าบริษัทเหล่านี้เป็นบริษัทขนาดเล็ก ผลประกอบการต่อปีอยู่ที่หลัก 2,000-3,000 ล้านบาทเท่านั้น ทำให้การทุ่มงบฯในการประมูลอาจเป็นไปได้ยาก

อย่างไรก็ตามยังมีผู้ ประกอบการอีกรายที่ดูน่ากลัวและอาจจะลงมาประมูลแข่งด้วย คือช่อง 7 เนื่องจากมีความพร้อมในเรื่องเม็ดเงินที่จะประมูล เพราะล่าสุดช่อง 7 เพิ่งประมูลได้ลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลเอฟเอคัพของอังกฤษ โดยชนะทรูวิชั่นส์ และซีทีเอช (บริษัท เคเบิล ไทย โฮลดิ้ง จำกัด)

"การ แข่งขันดังกล่าว คาดว่าจะส่งผลให้ราคาประมูลพรีเมียร์ลีกสูงขึ้นเป็นเท่าตัวเมื่อเทียบกับ ครั้งที่แล้ว และอาจจะเป็นตัวเลขที่สูงถึง 4,000 ล้านบาท"

ด้านนายวิ ลักษณ์ โหลทอง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) เจ้าของหนังสือกีฬา "สยามกีฬา" กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า บริษัทมีความพร้อมและสนใจจะประมูลซื้อลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีกอังกฤษในครั้ง นี้เช่นกัน แต่ทั้งนี้คงต้องหารือกับบริษัทสามารถ คอร์ปอเรชั่น พันธมิตรด้วย

ก่อนหน้านี้ นายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ประกาศจะใช้งบฯ 2,000-3,000 ล้านบาท ในการประมูลซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษสำหรับ 3 ฤดูกาลข้างหน้า โดยการประมูลดังกล่าวจะเป็นการร่วมมือกับพันธมิตร

วันอังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ทรูวิชั่นส์ ไม่หวั่น แกรมมี่จ้องคว้าสิทธิ์ พรีเมียร์ลีก ย้ำพร้อมป้องลิขสิทธิ์คอนเทนต์ดี ในราคาที่คุ้มค่า ชูจุดแข็งฐานสมาชิก และประสบการณ์   ล่าสุด คว้าเอ็กซ์คลูซีฟ ลิขสิทธิ์บีบีซี เพิ่ม 4 ช่อง เอาใจฐานสมาชิกแพลทินัม และโกลด์ แพ็กเกจ มั่นใจเพิ่มได้อีกไม่ต่ำกว่า 10% 

ด้านจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ประกาศทุ่มไม่อั้น ซื้อคอนเทนต์คุณภาพ พร้อมลุยลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีก ชูจุดแข็งบริษัทเอนเตอร์เทนเมนต์ ที่พร้อมซัพพอร์ตการตลาด สร้างฐานสมาชิกผ่านกล่องวันสกาย 1.5 ล้าน สิ้นปีนี้
               นายองอาจ ประภากมล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายคอมเมอร์เชียล  บมจ.ทรูวิชั่นส์ เปิดเผยว่า จากแนวทางการพัฒนาธุรกิจของทรูวิชั่นส์ เน้นย้ำการคัดเลือกคอนเทนต์ที่ดีมานำเสนอให้กับสมาชิก ด้วยความพร้อมทั้งด้านฐานสมาชิก และอินฟราสตรักเจอร์ รวมทั้งการบริหารคอนเทนต์ให้เกิดมูลค่า ซึ่งบริษัทมีแผนที่จะเติมคอนเทนต์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพื่อสร้างความแตกต่างจากผู้ให้บริการรายอื่นๆ โดยปีนี้มีแผนที่จะเพิ่มคอนเทนต์ช่องเอชดี จากปัจจุบัน 11 ช่อง เป็น 20 ช่อง จากช่องรายการปัจจุบันที่มีอยู่ทั้งหมด 127 ช่อง
               นอกจากนี้ การเปลี่ยนกล่องรับสัญญาณเดิม เป็นกล่องอัจฉริยะรุ่น "ทรูวิชั่นส์ รุ่น เอชดี พลัส" ซึ่งบริษัทใช้งบลงทุนกว่า 2 พันล้านบาท จะทำให้ทรูวิชั่นส์ สามารถเพิ่มช่องใหม่ และรายการคุณภาพระดับโลกด้วยระบบดิจิตอลได้อีก โดยเริ่มเปลี่ยนกล่องรับสัญญาณให้สมาชิกแพ็กเกจ แพลทินัม โกลด์ และซิลเวอร์  ภายในระยะเวลา 1 ปี เริ่มตั้งแต่ตุลาคม 2554 ซึ่งขณะนี้เปลี่ยนไปแล้วประมาณ 2 แสนกล่อง และคาดว่าจะเปลี่ยนครบทั้งหมดกว่า 4 แสนกล่องได้ภายในกลางปีนี้ และหลังจากการเปลี่ยนกล่องทั้งหมด จะทำให้ผู้รับชมช่องสัญญาณทรูวิชั่นส์ที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่สามารถรับชมได้อีก 
               ส่วนเรื่องลิขสิทธิ์คอนเทนต์ใหม่ๆ ล่าสุด ได้ซื้อลิขสิทธิ์รายการจากบีบีซีเพิ่มอีก 4 ช่อง จากเดิมที่มีอยู่แล้ว 1 ช่อง ได้แก่ ช่อง BBC Knowledge, BBC Lifestyle, BBC Entertainment และ Cbeebies และสำหรับลิขสิทธิ์ใหม่ๆ ที่จะเพิ่มขึ้นในปีนี้ ยังไม่สามารถระบุได้ ว่าจะเป็นลิขสิทธิ์รายการประเภทใดบ้าง ส่วนลิขสิทธิ์กีฬา เช่น พรีเมียร์ลีก ที่จะมีการแข่งขันในช่วงกลางปีนี้ และคาดว่าจะมีคู่แข่งขันรายใหม่ เช่น จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่เข้าร่วม ทางทรูวิชั่นส์ ถือว่ามีความพร้อมที่จะแข่งขัน
               นายอรรถพล ณ บางช้าง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายรายการ บมจ.ทรูวิชั่นส์  กล่าวว่า การแข่งขันซื้อลิขสิทธิ์กีฬา เจ้าของลิขสิทธิ์ไม่ได้มองแค่ผลตอบแทนที่แต่ละบริษัทนำเสนอให้ แต่จะมีเรื่องของความพร้อมในด้านอื่นๆ เป็นเกณฑ์ในการพิจารณา รวมทั้งผลตอบแทนที่เจ้าของลิขสิทธิ์จะได้รับกลับไป ซึ่งทรูวิชั่นส์มีความพร้อมทั้งจากฐานสมาชิก ซึ่งมีอยู่ประมาณ 2 ล้านราย และจะเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 10% ในสิ้นปีนี้ รวมทั้งประสบการณ์ในการพัฒนาคอนเทนต์ และพัฒนาตลาดให้กับเจ้าของลิขสิทธิ์ 
               สำหรับมูลค่าการแข่งขันที่จะซื้อลิขสิทธิ์ ทรูวิชั่นส์ จะดูที่ความเหมาะสมและความคุ้มค่าคุ้มราคา ถ้าบริษัทอื่นยอมทุ่มเงินจำนวนสูงๆ แล้วทรูวิชั่นส์เห็นว่าเป็นราคาที่ไม่เหมาะสม ก็จะปล่อยคอนเทนต์นั้น แต่เชื่อว่าความสำเร็จของทรูวิชั่นส์ที่ผ่านมา ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงข้ามคืน แต่ทรูวิชั่นส์สั่งสมประสบการณ์และพัฒนาคอนเทนต์มากกว่า 20 ปี
               นายอรรถพล กล่าวก่อนหน้านี้ว่า ทรูวิชั่นส์ต้องวางกลยุทธ์การซื้อคอนเทนต์ในช่วง 3-4 ปีนี้ เพื่อทำให้สมาชิกทั้งหมดไม่ยกเลิก ไม่ย้ายแพลตฟอร์ม การเลือกซื้อลิขสิทธิ์รายการ เราต้องบริหารไม่ให้ต้นทุนสูงเกินไป ซึ่งเปย์ทีวีส่วนใหญ่ต้นทุนการซื้อคอนเทนต์จะไม่เกิน 30% ของรายได้ ซึ่งที่ผ่านมา สามารถบริหารจัดการคอนเทนต์ให้เป็นไปตามเป้าหมาย เนื่องจากบริษัทมีคอนเนกชันที่ดีกับเจ้าของลิขสิทธิ์ ทำให้การซื้อลิขสิทธิ์เพิ่ม ไม่ได้เป็นต้นทุนที่สูงเกินจริง 
               ด้านนายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม  ประธานกรรมการ บมจ.จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ กล่าวว่า บริษัทใช้งบลงทุนไม่อั้นสำหรับการซื้อคอนเทนต์ โดยบริษัทจะเข้าประมูลรายการถ่ายทอดสดกีฬาทุกประเภท รวมทั้งลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีก ซึ่งเตรียมเปิดประมูลเร็วๆ นี้ เพราะฉะนั้นต้องมีสตราทิจิก พาร์ตเนอร์ เข้ามาเสริมความแข็งแกร่ง ซึ่งคาดว่าการเจรจาจะสรุปภายในเดือนมีนาคมนี้ พร้อมเปิดตัวแผนธุรกิจทั้งหมดของวันสกาย
               นายกอบเกียรติ แสงวนิชย์ กรรมการผู้จัดการ ธุรกิจกีฬาและพัฒนาธุรกิจ บมจ.จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ กล่าวว่า จากงบด้านคอนเทนต์ 2,100 ล้านบาท ระยะเวลา 3 ปี จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ได้จัดสรรคอนเทนต์ดังกล่าว เพื่อให้บริการในช่องทีวีดาวเทียมแบบบอกรับสมาชิก (Pay TV) และแบบรับชมเป็นรายครั้ง (Pay-Per-View) ของกล่อง วันสกาย ซึ่งจะเริ่มเปิดตัวอย่างเป็นทางการเดือนมีนาคมนี้ โดยจะมีช่องกีฬาทั้งหมด 6 ช่อง แพ็กเกจละ 350 บาทต่อเดือน ได้แก่ ช่องจีเอ็มเอ็มสปอร์ต, ASN กีฬาอเมริกา, ยูโร สปอร์ต และสปอร์ต พลัส ที่ร่วมมือกับ LIVE TV อีก 3 ช่อง ซึ่งมีแผนจะเปิดเพิ่มเป็น 13 ช่อง ภายใน 3 ปี และแพ็กเกจเอนเตอร์เทน 4 ช่อง ราคาแพ็กเกจ 200 บาทต่อเดือน ได้แก่ ช่องแกรมมี่มูฟวี่ฮิต, ซีรีส์, การ์ตูน และสารคดี ซึ่งช่วงแรกเปิดให้ชมฟรี และจะเริ่มเก็บค่าบริการประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์นี้ 
               สำหรับคอนเทนต์กีฬา ขณะนี้แกรมมี่ถือลิขสิทธิ์อยู่กว่า 20 รายการ อาทิ ยูโร 2012, Carling Cup, ฺBundesliga, แชมเปียนส์ลีก อังกฤษ ดิวิชัน 1, Copa do Brasil, J League, League ฝรั่งเศส, Football Friendly Match, Arsenal TV, AC Milan TV, Dortmund, PSG TV, MUTV, ATP, WTA Tour, TV แบดมินตันโลก, Table Tennis World Series, AIBA Boxing Champions โดยคอนเทนต์ที่คัดเลือกมา จะเป็นคอนเทนต์ที่คนไทยให้ความสนใจ และมีคนไทยไปแข่งขัน ภายใต้คอนเซ็ปต์ คือ Asian Hero ไทยฮีโร่

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,711   5-8  กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555